อัปเดตเทรนด์ 8 สไตล์บ้านมาแรงแห่งปี!!!

อัปเดต 8 สไตล์บ้านมาแรงแห่งปี!!!

" สไตล์ " การออกแบบ เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสมือนเป็นศิลปะที่ผสมผสานกับวิถีชีวิต สื่อออกมาในแง่สถาปัตยกรรม จนสะท้อนเป็นรูปแบบที่แตกต่างไปตามลักษณะพื้นที่ รายละเอียด หรือแม้กระทั่งการใช้สี โดยการออกแบบจะช่วยดึงเอกลักษณ์และความโดดเด่นของตัวบ้านให้เข้ากับความต้องการของเจ้าของบ้าน 

เปิดเทรนด์สไตล์บ้านมาแรงแห่งปี ทั้ง 8 สไตล์ที่ค้นหามาจากความต้องการของเจ้าของบ้าน ไม่มีตกยุค ยังไงก็ไม่มีเอาต์

1. Loft Style

สไตล์ Loft มีต้นแบบมาจากโรงงานหรือโกดังในสมัยก่อน เน้นโทนสี นํ้าตาล ขาว เทา ดำ โดยจะเน้นโครงสร้างของสถาปัตยกรรมภายในเป็นหลัก เน้นการเปิดพื้นที่โล่ง ออกแบบการจัดวางวัสดุแบบตรงไปตรงมาเพื่อแสดงถึงสัจจะวัสดุอย่างแท้จริง  ทั้งนี้ด้วยสไตล์ Loft นั้นเป็นการออกแบบที่โชว์ผิวของวัสดุ จึงต้องอาศัยความชำนาญของช่างในการเก็บงานซึ่งอาจหาได้ไม่ง่ายนัก รวมถึงด้วยรูปทรงอาคารที่มีการเน้นพื้นที่เปิดโล่งอาจทำให้มีค่าดูแลรักษาค่อนข้างสูง

วัสดุ :

บ้านสไตล์ลอฟท์ เน้นการเลือกใช้วัสดุแบบตรงไปตรงมาเป็นไม้ เหล็ก ปูน อิฐ กระจกปูนเปลือย เป็นต้น หรืออาจมีการตกแต่งผนังให้ดูหยาบหรือตกแต่งผนังให้คล้ายปูนเปลือยขัดมันซึ่งพบได้บ่อยเช่นกัน

2. Modern Style

นับได้ว่ากระแสบ้านทรงโมเดิร์น ยังคงเป็นที่นิยมในปัจจุบันและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น โดยได้รับอิทธิพลจากสื่อต่างๆ ด้วยสไตล์ที่สวยแปลกตา ลักษณะเด่นคือความหรูหราในความเรียบง่าย ลดทอนองค์ประกอบต่างๆที่ไม่สำคัญออกไป รูปทรงของบ้านจึงเป็นรูปแบบทรงเรขาคณิตไม่ซับซ้อน แต่ละพื้นที่มีประโยชน์ต่อการใช้สอย ด้วยเหตุนี้คำว่า โมเดิร์น แปลว่า สิ่งใหม่ จึงถูกนำมานิยามการตกแต่งสไตล์นี้เพื่อสื่อถึงความทันสมัย

วัสดุ :

ด้วยรูปทรงบ้านสไตล์เดิร์นที่เน้นดีไซน์  การเลือกใช้วัสดุจึงให้ความสำคัญในเรื่องการถ่ายเทความร้อน เช่น วัสดุก่อหนังเลือกที่มีคุณสมบัติหน่วงความร้อน ใต้หลังคามีแผนชนวนกันความร้อน หรือหลังคาเมทัลชีท รวมถึงกระจกติดฟิล์มสะท้อนและป้องกันความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้าน มีการเลือกใช้วัสดุตกแต่งที่มีรูปทรงทันสมัย เช่น เรขาคณิตที่มีความเรียบง่าย ลักษณะพื้นผิวด้าน สีเรียบ และมักเลือกใช้สีคุมโทน 2-3 สีเพียงเท่านั้น และเนื่องจากสไตล์นี้นิยมใช้โลหะและกระจกผืนใหญ่เป็นส่วนประกอบ จึงทำให้ต้องคำนึงถึงคุณสมบัติในการถ่ายเทความร้อนของวัสดุเป็นสำคัญ เช่น เลือกวัสดุก่อที่มีความหนาเพิ่มขึ้นช่วยหน่วงความร้อนเข้าสู่อาคาร มีการติดตั้งแผ่นฉนวนกันความร้อนใต้หลังคาสโลปต่ำเพื่อช่วยลดปริมาณความร้อน รวมถึงกระจกติดฟิล์มสะท้อนและป้องกันความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้านนั่นเอง

3. Minimal Style

“น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้” คงเป็นสไตล์ใดไปไม่ได้นอกจาก “Minimal Style” น้องใหม่ที่มาแรง ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งปัจจุบันสไตล์มินิมอล ไม่ใช่เฉพาะแค่สไตล์การออกแบบบ้าน แต่ยังเป็นที่นิยมไปถึงการออกแบบ โฮสเทล ร้านกาแฟ และร้านคาเฟ่ต่างๆ  โดยเอกลักษณ์ที่เห็นชัดเจนคือลายเส้นที่โค้งมน ปลอบประโลมจิตใจให้รู้สึกอบอุ่น การเจาะหน้าต่างช่องเปิดเป็นวงกลม หรือโค้งมน ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจาก Style ญี่ปุ่นนั่นเอง  

วัสดุ :

วัสดุที่บ่งบอกถึงความเป็นมินิมอล ต้องมีความเรียบง่าย ดูสบายตา ไม่โดดออกมาจากภาพรวมมากเกินไป สีสันไม่ฉูดฉาด มักใช้สีคู่กันไม่เกิน 3 เฉด อาทิ โทนสีขาวนวลค่อนไปทางเหลือง หรือสีเบจโทนน้ำตาลอ่อน ทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้บ้านดูสวยสะอาดตา เช่น พื้นไม้จริง (Wood Flooring) พื้นไม้ลามิเนต  พลาสวูด (PLASWOOD) หรือระแนงไม้เทียมพลาสติกคอมโพสิต เป็นต้น

4. Nordic Style

บ้านสไตล์นอร์ดิกหรือสไตล์สแกนดิเนเวียน (Style Scandinavian)  เป็นอีกหนึ่งสไตล์บ้านที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง จุดเด่นก็คือรูปทรงจั่วคล้ายกับโรงนาในยุโรป อาคารเป็นทรงสูงทรง หลังคาค่อนข้างลาดชัน เน้นความเป็นธรรมชาติของสีและวัสดุอุปกรณ์ รวมไปถึงประโยชน์ใช้สอยมากกว่าความสวยงาม ด้วยแบบบ้านที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมของยุโรปตอนเหนือ มีดีไซน์ที่แตกต่างแต่เรียบง่าย ชวนให้ผ่อนคลาย การนำแสงจากธรรมชาติมาทำให้ตัวบ้านสว่าง และเน้นฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก  โดยโทนสีที่ใช้ก็จะมักจะเลือกใช้โทนสีธรรมชาติ เช่น สีขาวเป็นสีพื้น สีเอิร์ธโทน อย่างสีน้ำตาลของไม้  ซึ่งสามารถเบรกอารมณ์ให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกถึงความอบอุ่น

วัสดุ :

“หลังคา” ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวบ้านสไตล์นอร์ดิก ดังนั้นการเลือกใช้วัสดุที่มีรูปทรงและเส้นสายที่เรียบง่าย สะดุดตา การเลือกแผ่นหลังคาหรือแผ่นผนังที่เป็นลอนเรียบจึงเป็นที่นิยม แต่ด้วยภูมิประเทศและภูมิอากาศของเราอยู่ในเขตร้อนชื้น ดังนั้นจึงต้องคำนึงถึงปัญหา เรื่องฝนสาดเข้าตัวอาคารด้วย เนื่องจากชายคาที่สั้นหรือมักไม่มีชายคา ดังนั้นอาจต้องมีการออกแบบบัวหรือขยับตำแหน่งช่องเปิดมากอยู่ด้านในเพื่อให้มีขอบของผนังช่วยกันน้ำก็อาจจะช่วยลดปัญหารั่วซึม และปัญหาน้ำไหลย้อนได้

5. Oriental Style

บ้านที่แสดงถึงความมีเสน่ห์ในแบบชาวตะวันออก มีเอกลักษณ์ชัดเจน ผสมผสานหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน เป็นการออกแบบตามสภาพภูมิอากาศ วิถีชีวิต อาจจะสื่อผ่านลวดลายที่ปรากฏบนเฟอร์นิเจอร์ และมีความเชื่อทางด้านฮวงจุ้ยเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยงานออกแบบสไตล์โอเรียลทัล ส่วนใหญ่จะพบเห็นมากในการออกแบบโรงแรม รีสอร์ทหรือสปา  

วัสดุ :

เฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่ง  อาจเลือกเฟอร์นิเจอร์สไตล์จีนหรือญี่ปุ่น สีทึบและไม่มีลวดลายมาก,  เลือกการบุเฟอร์นิเจอร์ด้วยไผ่,  ไหมสีเรียบ  หรือ มีเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากธรรมชาติหรือของพื้นเมืองในรูปทรงแบบ คลาสสิค และเสริมด้วยของประดับตกแต่งที่ผสมความเป็นจีนหรือรูปแบบ  ญี่ปุ่นก็จะช่วยเสริมความเป็นบรรยากาศแบบ Oriental ได้อย่างมาก

6. Mediterranean Style

ได้รับอิทธิพลมาจากบ้านพักตากอากาศริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หรือสถาปัตยกรรมแถบตะวันตกยุคเรเนสซอง เช่น ประเทศอิตาลี สเปน และฝรั่งเศส (บ้างก็เรียกว่า “สไตล์ทัสคานี”) เป็นการหลอมรวมกันระหว่างความหรูหราและสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์  สถาปัตยกรรมสไตล์นี้จึงเหมาะกับภูมิทัศน์ที่เปิดโล่ง เพื่อรับชมวิวและทัศนียภาพโดยรอบได้อย่างเต็มที่ การตกแต่งภายในมีทั้งแบบที่เรียบง่ายและแบบมีรายละเอียดซับซ้อนสไตล์ตะวันตก เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยของครอบครัวใหญ่ ดูราวกับเป็นสถานที่พักผ่อนในวันหยุดยาว ที่ให้ทั้งความอบอุ่น พร้อมกับความหรูหราในสไตล์ที่ไม่เคยตกยุค การออกแบบสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นที่เผยให้เห็นเอกลักษณ์ของการก่อสร้าง ออกแบบโดยการเปลี่ยนอิฐให้เป็นเหมือนก้อนหินที่เรียงกันเหมือนไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นจึงฉาบปูนแบบหยาบๆ ทำการลบเหลี่ยมมุมให้มนโค้ง และตกแต่งให้ละมุนด้วยระแนงไม้ เฟอร์นิเจอร์จากไม้สน งานหวายสาน ซึ่งก็มีความแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรมของท้องถิ่นนั้นๆ

วัสดุ : 

อาคารมีองค์ประกอบแบบเหลี่ยมและแบบโค้งครึ่งวงกลม เช่น ซุ้มหน้าต่างแบบโค้ง (Arched Window)ซุ้มทางเดินที่ต่อเนื่องเป็นจังหวะตลอดแนวอาคาร มักเลือกใช้งานผนังปูนที่ไม่เรียบเนียน (Stucco) เทคนิคการฉาบปูนที่ขับให้งานผนังดูมีมิติ (Plaster) หรืองานผนังก่ออิฐโชว์แนวที่เป็นระเบียบ ส่วนหลังคาใช้วัสดุมุงเป็นกระเบื้องหลังคาดินเผา(กระเบื้องหลังคาเทอราคอตตา) รูปลอน ในโทนสีกลุ่มเอิร์ธโทน (Earth Tone)

7. Tuscany style

แบบบ้านสไตล์ทัสคานี เป็นสไตล์บ้านที่คงไม่คุ้นชินกันเท่าไร มีที่มาจากชื่อเมืองทัสคานี เป็นสถาปัตยกรรมแบบชนบทสไตล์อิตาลี ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสภาพแวดล้อมในธรรมชาติ ที่ กลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่เรียบง่าย สวยงาม แต่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้รับอิทธิพลมาจากสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมีความเรียบง่าย มีซุ้มโค้งภายในบ้านและนอกบ้าน การทาสีใช้สีโทนอ่อนๆ เช่น เหลือง ครีม  มีอิฐหรือหินเป็นส่วนประกอบของบ้าน มีลักษณะเด่นตรงที่ รูปทรงตัวบ้านเป็นทรงเรียบๆแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาเป็นทรงปั้นหยาค่อนข้างลาดหรือเป็นหลังคาเรียบบางหลังอาจมีหอคอยชมวิวอยู่ด้วย

องค์ประกอบหลักๆ ในการออกแบบบ้านสไตล์ทัสคานี คือชานระเบียงที่เรียงร้อยด้วยเถาไม้เลื่อย การแต่งบ้านด้วยของสะสมโบราณ ที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศของการแต่งบ้านสไตล์ทัสคานี ให้ความสวยงามที่แฝงมนต์ขลังยิ่งขึ้น

วัสดุ :

บ้านสไตล์ทัสคานีมักใช้วัสดุตกแต่งที่พบตามธรรมชาติ เช่นหินปูนและหินทรายซึ่งมีหลากหลายเฉดสี นอกจากนี้ยังใช้หินอ่อนในการตกแต่ง ทำพื้น หรือเสา ด้วยบ้านสไตล์นี้มีลักษณะคงทนและแข็งแกร่ง หลังคามักทำจากกระเบื้องดินเผา หน้าต่างเจาะลึก ทำกรอบด้วยหินทรายและใช้ไม้เก่าๆ ทำเป็นบานหน้าต่าง อีกหนึ่งจุดเด่นของสไตล์นี่คือจะมีสวน ทางเดิน และมุมสำหรับนั่งพักผ่อนในสวน มักใช้กำแพงที่สร้างด้วยอิฐจากหินทราย ตกแต่งสวนด้วยไม้ดอกสวยๆ รูปปั้นหินอ่นอและน้ำพุช่วยเพิ่มความนุ่มนวล

8. Natural Style

บ้านสไตล์ธรรมชาติ ที่เน้นวัสดุก่อสร้างจากธรรมชาติ หรือวัสดุเลียนแบบธรรมชาติ ทำให้บ้านสวย อบอุ่นและอบอวลไปด้วยกลิ่นอายธรรมชาตินั่นเอง ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยผ่อนคลาย ส่วนใหญ่มักก่อสร้างในภูมิประเทศใกล้ ป่า เขา หรือชายทะเล

วัสดุ :

บ้านสไตล์เนเชอรัล (Natural Style) หรือบ้านสไตล์ธรรมชาติ เป็นการนำสิ่งรอบตัวมาประยุกต์ใช้ในการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นวัสดุจากธรรมชาติ รวมถึงวัสดุที่เลียนแบบธรรมชาติ เช่น ไม้เทียม หรือ ไม้สังเคราะห์ ที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อทดแทนการใช้ไม้จริง ในส่วนของผนังบ้านจะใช้การก่ออิฐ ซึ่งผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติ เช่น ดินเหนียว หิน เป็นต้น  ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ทาสีทับ เพื่อให้เห็นสีธรรมชาติของวัสดุที่มีความสวยงามในตัวเอง เช่น สีครีมหรือน้ำตาลของไม้ สีเทาของหิน เป็นต้น มีหน้าต่างบานใหญ่เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ และช่วยให้มองเห็นวิวและทัศนียภาพภายนอก

และหากคุณกำลังมองหาสไตล์บ้านที่ใช่สำหรับคุณ  Design Connext มีตัวช่วยให้คุณมีบ้านที่ใช่ ในสไตล์ที่เป็นคุณ  กับการเล่น Quiz เพียงไม่กี่ข้อ ก็จะทำให้คุณได้รู้ว่าสไตล์บ้านแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ

ลองเล่นกันดูกันเล้ยยที่ https://designconnext.com/quiz/style/architecture