The Lounge (Clubhouse) @Villa Sandbar

พื้นที่ลอบบี้ยังทำหน้าที่เป็น จุดเริ่มต้นของพิธีกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยการจัดวางแท่นต้มน้ำสมุนไพรและมะพร้าว ซึ่งเป็นพืชท้องถิ่น รูปแบบการจัดวางและการใช้งานสร้างความรู้สึกเหมือน วิหารเชิญชวนให้เข้ามาตักน้ำดื่ม (welcome drink ritual) เป็นการเชื่อมโยงผู้เข้าพักกับบริบททางวัฒนธรรมและธรรมชาติของเกาะ นอกจากได้สัมผัสรสชาติแล้วตัวหม้อต้มยังทำให้เกิดกลิ่นปกคลุมไปรอบพื้นที่ นอกจากนี้ รีสอร์ตยังออกแบบให้รองรับกิจกรรม ปาร์ตี้ริมหาดในคืนพระจันทร์เต็มดวง โดยแท่นต้มน้ำสามารถปรับเปลี่ยนเป็นแท่นบูชาดนตรีได้ การออกแบบนี้สะท้อนแนวคิด adaptive space ที่สามารถเปลี่ยนบทบาทตามกิจกรรมและช่วงเวลา ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีการออกแบบสถาปัตยกรรมเพื่อประสบการณ์ผู้ใช้งาน (user experience in architecture)

Sense of Place in Resort Design at Phi Phi Island: An Architectural Perspective ในแต่ละสถานที่บนโลก มักมีองค์ประกอบที่สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวและทำให้ผู้คนจดจำสถานที่นั้นได้ หนึ่งในนั้นคือ บรรยากาศ ที่ประกอบด้วยเสียง กลิ่น รสชาติ และสัมผัสต่างๆ ตัวอย่างเช่น การเดินทางไปเยาวราช เพียงแค่ได้ยินเสียงรถหรือกลิ่นอาหารก็สามารถกระตุ้นความทรงจำและความรู้สึกของพื้นที่ได้ทันที จากแนวคิดนี้ เราได้พัฒนารีสอร์ตบน เกาะพีพี ภายใต้แนวคิด Sense of Place โดยออกแบบให้ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของเกาะผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า รวมถึงกิจกรรมและบรรยากาศ โดยสถานที่มีความพิเศษเฉพาะตัวคือ การเข้าถึงรีสอร์ตทำได้เพียงโดย เรือหางยาวแบบท้องถิ่น การเดินทางนี้เองสร้างประสบการณ์แรกแก่ผู้เข้าพัก ทั้งความร้อนจากผ้าใบหลังคา ความเปียกจากน้ำทะเล และความเหนอะหนะจากทรายที่ติดเท้า ซึ่งเป็น ประสบการณ์ทางกายภาพ (physical experience) ที่ทำให้ผู้เข้าพักรับรู้ถึงความเป็นสถานที่จริง