ณรงค์เดช รักกลาง

จากความชื่นชอบในวัสดุไม้ของเจ้าของบ้าน สู่การออกแบบบ้านที่นำไม้เก่ามาผสานกับเอกลักษณ์ของเรือนไทยดั้งเดิม โดยยกตัวบ้านให้สูงโปร่ง พร้อมมีลานกว้างกึ่งกลางแจ้งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อส่วนต่างๆ ของบ้าน และยังใช้เป็นมุมพักผ่อนทำกิจกรรมได้หลากหลาย การออกแบบประตูหน้าต่างให้เปิดกว้าง ยังช่วยเชิญชวนให้สายลมและแสงแดดของแต่ละฤดูกาลได้พัดผ่านเข้ามาอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีการวางทิศทางของบ้านและตำแหน่งห้องอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันความร้อน ทำให้บ้านหลังนี้อยู่สบายและเย็นลงได้ด้วยวิธีธรรมชาติ

ท่ามกลางความวุ่นวายและแสงสีของย่านสถานบันเทิงยามค่ำคืนในชะอำ ตึกแถวเก่าแก่ที่เคยถูกทิ้งให้รกร้างได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในฐานะ "Pannana" (พัน-นา-นา) ที่พักที่ไม่ใช่แค่ที่ซุกหัวนอน แต่เป็นพื้นที่แห่งวัฒนธรรมและการเรียนรู้ที่พร้อมจะบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง จุดเริ่มต้นของ Pannana มาจากความกล้าที่จะแตกต่าง ผู้ออกแบบต้องการสร้างสถานที่ที่นำเสนอวัฒนธรรมและชุมชนของนักเรียนรู้ขึ้นมาแทนที่ภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน โดยได้หยิบยก "เส้นสายลายไหล" ซึ่งเป็นพื้นฐานของลายไทย มาเป็นหัวใจหลักในการออกแบบ เส้นสายที่โค้งมนและอ่อนช้อยได้ถูกแทรกซึมเข้าไปในอาคาร ตั้งแต่ผนัง, ประตู, ไปจนถึงของตกแต่ง เพื่อลดความแข็งกระด้างของตึกแถว และสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย อบอุ่นเหมือนบ้าน สะท้อนถึงวัฒนธรรมไทยที่อ่อนโยนแต่ก็แฝงไว้ด้วยความเข้มแข็ง Pannana ไม่ได้เป็นเพียงที่พัก แต่ยังเป็น "พื้นที่กึ่ง Co-working และ Co-creation Space" เพื่อตอบสนองความต้องการของนักเดินทางรุ่นใหม่ที่มองหาการพักผ่อนที่สร้างสรรค์ ที่นี่จึงมีพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งที่ถูกจัดสรรไว้เพื่อการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งสำหรับจัดแสดงงานศิลปะหมุนเวียน, ห้องสมุดขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยหนังสือสร้างแรงบันดาลใจ, ไปจนถึงพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปต่างๆในโถงกิจกรรมชั้นล่าง หรือจะเป็นกิจกรรมทำอาหาร ที่นี่ก็เตรียมอุปกรณ์พื้นฐานไว้ให้ใช้งาน