Private Guesthouse & Organic Farm

บ้าน Modern Tropical หลังนี้ ออกแบบอาคารให้ดูทันสมัยเข้ากับบริบทโดยรอบและเน้นระบายอากาศได้ดี อีกทั้งspaceที่เชื่อมต่อถึงกันทั้งภายในและภายนอกทำให้บ้านดูกว้างขวางและอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้เป็นอย่างดี โดยใช้ประโยชน์จากการวางแนวอาคารและหลังคาที่ยื่นยาวทำให้เกิดพื้นที่กิจกรรมที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวันโดยไม่รู้สึกร้อนและอบอ้าว 🏡ต้นไม้เดิมและกระท่อมหลังน้อยที่เจ้าของบ้านสร้างเพื่อรับรองแขก ยังถูกเก็บรักษาไว้เช่นเดิม โดยจัดวางไว้ในสวนที่ออกแบบให้เชื่อมต่อกันกับตัวบ้านและยังสามารถเข้าไปใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย " Dollar house " The dollar - house is a house for a big family with engaged in the wooden Industrial. To design architecture for us was a challenging yet inspiring task, doubly so since it was our architecture we needed to fit the context into. Any design needs to match the client’s nature while pragmatic and very spacious.

แนวความคิดในการออกแบบบ้านพักอาศัยหลังนี้เริ่มต้นจากความต้องการของเจ้าของที่ต้องการเชื่อมต่อบ้านหลังเก่ากับบ้านหลังใหม่โดยให้พื้นที่ชั้นล่างของบ้านเป็นพื้นที่ที่คนในครอบครัวใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งเข้าครัว กินข้าว พักผ่อนหรือจัดเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ ส่วนชั้นบนออกแบบพื้นที่เป็น 2 ฝั่งสำหรับ 2 ครอบครัวและเชื่อมถึงกันด้วยสะพาน จึงทำให้รู้สึกว่าเหมือนมีบ้านเล็กๆ 2 หลังอยูในหลังคาเดียวกัน ชื่อ Hage house ได้มาจาก คำว่า HAGE (ฮา-เก้) ภาษานอเวย์ แปลว่า "สวน" ซึ่งสอดคล้องกับบริบทของตัวบ้าน แต่ในความเป็นจริงอีกนัยหนึ่ง คำว่า HAGE ยังอ่านเป็นภาษาญี่ปุ่น 禿 (ฮา-เกะ) แปลว่า "หัวล้าน" และนำมาซึ่ง Requirement บางอย่างที่น่าสนใจ เจ้าของบ้านมีความต้องการพิเศษ คือ ไม่ต้องการมองเห็นสวนยาง ซึ่งน่าแปลกมากเพราะเป็นมุมมองที่สวยงาม เจ้าของบ้านเล่าว่า "เมื่อหลายสิบปีก่อน ได้พบชายคนหนึ่ง มีลักษณะหัวล้าน เสียชีวิตในกระท่อม หลังสวนยาง 💀 เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ยังปรากฏตัวให้ชาวบ้านเห็นอยู่ จึงได้ทำการรื้อกระท่อมทิ้ง จนถึงวันนี้ชายหัวคนนั้นก็ยังคงปรากฏตัวให้เห็นอยู่บ้าง" Requirement นี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการออกแบบงานสถาปัตยกรรมหลังนี้ และ คำว่า "หัวล้าน หรือ Hage" จึงเป็นที่มาของชื่อบ้าน Hage house หลังนี้