กลิ่นฤดูร้อน

กลิ่นฤดูร้อน

Pavilion ที่ถูกแปลง่ายๆเป็นคำว่าศาลา จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการที่จะออกแบบยังไงให้ศาลาที่เป็นภาพจำของทุกคน ให้มีความแปลกใหม่จึงเป็นที่มาของconcept ที่ว่า เก่าแต่ไม่แก่
เก่าแต่ไม่แก่” คือแนวคิดหลักที่ใช้ในการออกแบบ Pavilion หลังนี้
แนวคิดนี้สะท้อนถึงคุณค่าของสิ่งที่ผ่านกาลเวลา แต่ยังคงมีชีวิต มีพลัง และร่วมสมัยได้อย่างสง่างาม
การเลือกใช้ ตะแกรงเหล็กฉีก เป็นวัสดุหลักของโครงสร้าง เป็นการนำวัสดุที่มีภาพจำแบบ “ดิบ แข็งแรง ดูอุตสาหกรรม”
มาตีความใหม่ให้โปร่ง เบา และร่วมสมัย ด้วยการดัด หรือจัดวางให้เกิดจังหวะของแสงและเงา
ลวดลายของตะแกรงเมื่อกระทบแสงธรรมชาติจะฉายเงาเป็นแพทเทิร์นลงบนพื้นและผนังรอบข้าง
เสมือนเป็น “เงาของอดีต” ที่ยังคงปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
โครงสร้าง Pavilion มีลักษณะเรียบง่ายแต่แฝงด้วยรายละเอียดเชิงช่าง
ได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของไทย เช่น โครงหลังคาแบบจั่ว
แต่ปรับรูปแบบให้ร่วมสมัยและเปิดกว้าง เพื่อรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ
Pavilion หลังนี้จึงเปรียบเสมือน “พื้นที่ของกาลเวลา” ที่ผสานอดีต ปัจจุบัน และอนาคตไว้ด้วยกัน
เป็นการพิสูจน์ว่าสิ่งที่ “เก่า” ไม่จำเป็นต้อง “แก่” หากเรามองเห็นคุณค่า และกล้าที่จะตีความใหม่
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
วีรวรรณ สระทองห้อย / พัลยมล หางนาค
ผู้ออกแบบ นางสาวจุฬามณี เพชรแสน
นางสาวพักตร์นภา ประชาชิต
นายสมบูรณ์ สัมฤทธิ์

Product Recommend

Design Connext
Design Connext
Design Connext
Design Connext
Design Connext
ผลงานที่น่าสนใจ
นางสาวพักตร์นภา  ประชาชิต
133
เข้าชม
5
ถูกใจ

ข้อมูลทั่วไป
เข้าชม
58 ครั้ง
ปี
2025
ขนาดพื้นที่
144 ตร.ม.
ประเภทโครงการ
หอประชุม / นิทรรศการ
สไตล์การออกแบบ
ลอฟท์
ไทยประยุกต์
วัสดุก่อสร้าง
ผนังเหล็กฉีก Expanded Metal
ผนังอื่นๆ โปรดระบุ
แฮชแท็ก
expandaedmetaldesign
expandedmetaldesign
ผลงานที่เกี่ยวข้อง
กลิ่นฤดูร้อน
144 ตร.ม.
2025
Pavilion ที่ถูกแปลง่ายๆเป็นคำว่าศาลา จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการที่จะออกแบบยังไงให้ศาลาที่เป็นภาพจำของทุกคน ให้มีความแปลกใหม่จึงเป็นที่มาของconcept ที่ว่า เก่าแต่ไม่แก่ เก่าแต่ไม่แก่” คือแนวคิดหลักที่ใช้ในการออกแบบ Pavilion หลังนี้ แนวคิดนี้สะท้อนถึงคุณค่าของสิ่งที่ผ่านกาลเวลา แต่ยังคงมีชีวิต มีพลัง และร่วมสมัยได้อย่างสง่างาม การเลือกใช้ ตะแกรงเหล็กฉีก เป็นวัสดุหลักของโครงสร้าง เป็นการนำวัสดุที่มีภาพจำแบบ “ดิบ แข็งแรง ดูอุตสาหกรรม” มาตีความใหม่ให้โปร่ง เบา และร่วมสมัย ด้วยการดัด หรือจัดวางให้เกิดจังหวะของแสงและเงา ลวดลายของตะแกรงเมื่อกระทบแสงธรรมชาติจะฉายเงาเป็นแพทเทิร์นลงบนพื้นและผนังรอบข้าง เสมือนเป็น “เงาของอดีต” ที่ยังคงปรากฏอยู่ในปัจจุบัน โครงสร้าง Pavilion มีลักษณะเรียบง่ายแต่แฝงด้วยรายละเอียดเชิงช่าง ได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของไทย เช่น โครงหลังคาแบบจั่ว แต่ปรับรูปแบบให้ร่วมสมัยและเปิดกว้าง เพื่อรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ Pavilion หลังนี้จึงเปรียบเสมือน “พื้นที่ของกาลเวลา” ที่ผสานอดีต ปัจจุบัน และอนาคตไว้ด้วยกัน เป็นการพิสูจน์ว่าสิ่งที่ “เก่า” ไม่จำเป็นต้อง “แก่” หากเรามองเห็นคุณค่า และกล้าที่จะตีความใหม่
Location : จ.น่าน | ออกแบบจากการผสมผสานเอาความเป็นสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นแและองค์ประกอบที่สามารถเห็นได้ในชุมชน อาทิ รั้วไม้ ผนังขัดเเตะ หรือหลอมข้าวที่สานจากไม้ไผ่และขี้วัว นำมาสร้างเป็นรูปทรงทางสถาปัตยกรรมศาลาเพื่อนำเสนอและจำหน่ายสินค้าในชุมชน 8 ชุมชน โดยมีการจัดแสดงงานศิลปะของชุมชนที่ด้านหน้าทางเข้าเพื่อเรียกความสนใจและภายในมีการวางสินค้าให้ล้อมรอบลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถเห็นสินค้าได้มากที่สุดและสามารถมีสมาธิในการเลือกคัดสรรค์สินค้าที่ต้องการได้ Design Strategy "Tree-Flower-Pollen" theory. ■ T R E E - The gazebo design should be able to integrate into the environment. Like the tree in the forest in order to maintain the overall look of the place. ■ F L O W E R - Like those tree who use the flower to attract the bee, each information center will be decorated by the art piece which suMphat has been inspired by the local craft and produce by the villager. This art installation will attract the tourist attention to the booth. ■ P O L L E N - Once the bee arrive to the flower, they will rolling in the pollen and carry them back. Once tourist visit the art installation, they will walk inside the display area and discover some craft product on display. With this display space, everyone in the village can have their product on display equally and lead the tourist to visit their studio.