Soi (Alley) is the Public Area in Front of the House

Soi (Alley) is the Public Area in Front of the House

กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความหนาแน่นของที่อยู่อาศัยและกิจกรรมในชีวิตประจำวัน การขยายถนนสายหลักจึงมุ่งตอบสนองต่อการสัญจรของกลุ่มชนชั้นนำเป็นหลัก ขณะที่ซอยย่อยส่วนใหญ่ยังคงมีขนาดเดิมและขาดการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ปัญหานี้ไม่เพียงสร้างความลำบากแก่ผู้ใช้ทางร่วมกัน หากยังสะท้อนถึงการจัดการเมืองที่ยังขาดประสิทธิภาพ จนนำไปสู่การเปลี่ยนพื้นที่สาธารณะให้กลายเป็นพื้นที่กึ่งส่วนตัวโดยไม่ตั้งใจ

การศึกษานี้นำเสนอมุมมองเชิงวิพากษ์ต่อ “ซอย” โดยมองว่าเป็นทรัพยากรสาธารณะที่ควรได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง พร้อมตั้งคำถามสำคัญว่า ในฐานะนักออกแบบ เราจะนิยามบทบาทของซอย และตอบสนองต่อศักยภาพที่แท้จริงของพื้นที่แห่งนี้ได้อย่างไร

เริ่มต้นจากการลงพื้นที่และวิเคราะห์องค์ประกอบของซอย เช่น ความกว้าง รูปแบบการใช้งาน และพื้นที่หน้าบ้าน เผยให้เห็นว่าซอยมีลักษณะทางกายภาพและบริบทชุมชนที่หลากหลาย การออกแบบจึงควรตอบโจทย์แต่ละพื้นที่อย่างเหมาะสม

ผลการศึกษาชี้ว่าซอยไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเพื่อการสัญจร แต่ยังเป็น “พื้นที่เชิงสังคม” ที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของชุมชน เป็นพื้นที่ที่ผู้คนพบเจอกันทุกวันโดยไม่ได้นัดหมาย

จากข้อค้นพบดังกล่าว ผู้เขียนจึงขอนิยาม “ซอย”ใหม่ว่า “ซอย คือ พื้นที่สาธารณะหน้าบ้าน“ ที่ควรได้รับการจัดการและพัฒนาอย่างเป็นระบบเชิงออกแบบและนโยบายสาธารณะต่อไป

Product Recommend

Design Connext
Design Connext
Design Connext
Design Connext
Design Connext
ผลงานที่น่าสนใจ
ลัทธพล ลือทรัพย์

ลัทธพล ลือทรัพย์

เข้าชม 44 ครั้ง
นงนภัส อิสโม
66
เข้าชม
0
ถูกใจ

ข้อมูลทั่วไป
เข้าชม
35 ครั้ง
ปี
2025
ขนาดพื้นที่
2,607 ตร.ม.
ประเภทโครงการ
อื่น ๆ
สไตล์การออกแบบ
Flexible Space
แฮชแท็ก
Thesisdesigndaward2025
ผลงานที่เกี่ยวข้อง
LIVING EXPANSION
120 ตร.ม.
2025
Living Expanding สะท้อนอยู่ในการเติบโตของต้นตีนตุ๊กแก ที่ค่อย ๆ คลี่ตัวไปพร้อมแสงแดดและกาลเวลา และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดสิ่งก่อสร้างในฐานะสถาปัตยกรรมที่มีชีวิต รูปทรงที่เติบโตและแปรเปลี่ยนได้ดุจเพื่อนร่วมทางที่มีชีวิต
1000 ตร.ม.
2025
เมืองเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายด้านประชากร วัฒนธรรม การใช้พื้นที่ และการพัฒนาเมือง ส่งผลให้แต่ละย่านสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ทั้งด้านบวกและความท้าทายต่อการเข้าถึงและความปลอดภัย ที่สามารถรับรู้ได้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้าของมนุษย์ พื้นที่นำร่องของการศึกษา คือ “เยาวราช” ย่านที่สะท้อนการอยู่ร่วมกันระหว่างอดีตและปัจจุบัน และมีมิติของประสบการณ์ที่หลากหลาย โครงการนี้ทดลองออกแบบเส้นทางเดินเท้าที่เชื่อมโยงองค์ประกอบของเมืองเหล่านี้เข้าด้วยกัน เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ในการสำรวจเมืองผ่านการใช้ประสาทสัมผัส ทำให้เมืองมีความสว่างและพรุนมากยิ่งขึ้น โดยใช้การออกแบบสถาปัตยกรรมให้กระจายตัวตามจุดต่าง ๆ ซึ่งเป็นระบบที่มีศูนย์กลางหลัก (Hub System) การออกแบบในแต่ละจุด มีทั้งการปรับปรุงอาคารเดิมและการสร้างอาคารใหม่ที่มีลักษณะถาวรและเคลื่อนย้ายได้ เพื่อทำหน้าที่เข้าไป Plug-in สร้างแสงสว่างและชีวิตชีวาให้พื้นที่ และสามารถเคลื่อนย้ายไปสร้างแสงสว่างให้กับพื้นที่อื่น ๆ ต่อไปได้ ซึ่งแต่ละจุดที่ทำการออกแบบเรียกว่า Folly ที่มีความหมายว่า จุดนำทางสำหรับผู้คน อาคารแต่ละจุดจะถ่ายทอดอัตลักษณ์ของพื้นที่ผ่านเสียง กลิ่น แสง เงา พื้นผิว และบรรยากาศ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งและส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์กับเมืองในมิติต่าง ๆ ซึ่งทำให้เมืองเกิดความพรุนมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการฟื้นฟูพื้นที่ซ่อนเร้นหรือพื้นที่ถูกมองข้าม