ในยุคที่การออกแบบเป็นสิ่งสำคัญ การปรับโฉมอาคารจึงไม่ใช่แค่การซ่อมแซม แต่เป็นการสร้างสรรค์พื้นที่ใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้อยู่อาศัยหรือผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว บทความนี้จะพาคุณไปค้นพบวิธีการปรับโฉมอาคารให้สวยงาม ทันสมัย และคุ้มค่า พร้อมแนะนำวัสดุตกแต่งที่น่าสนใจ
"เพราะอาคารไม่ใช่แค่โครงสร้าง แต่คือใบหน้าของธุรกิจและที่อยู่อาศัย การปรับโฉมอาคารจึงเปรียบเสมือนการให้โอกาสครั้งใหม่ในการสร้างความประทับใจและยกระดับคุณภาพชีวิต"
เพื่อให้ก้าวทันเทรนด์และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด การปรับโฉมอาคารเป็นโครงการใหญ่ที่ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการและคุ้มค่ากับการลงทุน ดังนั้น ก่อนเริ่มโครงการ ควรศึกษาปัจจัยสำคัญเหล่านี้ให้รอบคอบ
งบประมาณ
กำหนดงบประมาณรวมสำหรับโครงการทั้งหมด เพื่อวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสมพร้อมทั้งควรทำการแบ่งสัดส่วนงบประมาณให้ชัดเจน เช่น ค่าวัสดุ ค่าแรง ค่าขออนุญาต รวมถึงเตรียมเงินสำรองไว้สำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่วางแผนไว้
วัตถุประสงค์ของการปรับโฉม
สำรวจวัตถุประสงค์การปรับปรุงให้ชัดเจน อาทิ เพื่อปรับปรุงการใช้งานโดยการเพิ่มพื้นที่ใช้สอย เพื่อปรับปรุงเพื่อความสวยงามโดยการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ภายนอกและภายใน หรือปรับปรุงอาคารเพื่อเพิ่มมูลค่า เพื่อเตรียมขาย หรือเพื่อให้เช่า เป็นต้น
กฎหมายและข้อบังคับ
นับเป็นปัจจัยที่สำคัญของการก่อสร้างอาคารหรือการรีโนเวท ควรตรวจสอบกฎหมายอาคารในพื้นที่นั้น ๆ ว่ามีข้อกำหนดอะไรบ้าง เช่น ความสูงของอาคาร ระยะห่างจากถนน และข้อบังคับของชุมชน ซึ่งบางพื้นที่อาจมีข้อบังคับเฉพาะ เช่น สีของอาคาร รูปแบบสถาปัตยกรรม เป็นต้น
วัสดุที่เลือกใช้
ปัจจุบันมีวัสดุมากมายที่ใช้ตกแต่งอาคาร ซึ่งควรเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพดี ทนทาน และเหมาะสมกับสภาพอากาศ ควรเปรียบเทียบราคาของวัสดุแต่ละชนิด เพื่อเลือกวัสดุที่คุ้มค่า ตรงตามวัตถุประสงค์ เข้ากับสไตล์การออกแบบของอาคาร และคำนึงถึงอายุการใช้งานของวัสดุนั้นๆ ตลอดจนการบำรุงรักษา ข้อสำคัญคือ ความปลอดภัย ซึ่งควรเลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ก่อนดำเนินการต้องทำการตรวจสอบสภาพโครงสร้างของอาคารเดิมเสียก่อนเพื่อที่จะสามารถเลือกใช้วัสดุได้อย่างเหมาะสม และควรเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา อาทิเช่น วัสดุในกลุ่มแผ่นโปร่งแสง วัสดุในกลุ่มระแนง วัสดุในกลุ่ม Cladding เป็นต้น เพื่อช่วยลดภาระการรับน้ำหนักของโครงสร้างเดิมไม่ให้มากจนเกินไป รวมทั้งควรคำนึงถึงการติดตั้งวัสดุที่ไม่ยุ่งยาก เนื่องจากบางจุดอาจมีข้อจำกัดของอาคารเดิม
ตัวอย่างของวัสดุที่นิยมนำมาตกแต่งอาคาร
รูปตัวอย่างการใช้อลูมิเนียมคอมโพสิตตกแต่งอาคาร
รูปตัวอย่างการตกแต่งอาคารโดยใช้ แผ่น Perforate
รูปตัวอย่างการใช้ลูกเล่นของระแนงในการตกแต่งอาคาร
ตัวอย่างการปรับปรุงอาคารโดยวัสดุโปร่งแสงที่มีน้ำหนักเบา โครงการ Chiangmai Art Connect โดย Wire Knot Studios
ผู้รับเหมา
การเลือกผู้รับเหมาเป็นสิ่งสำคัญต่อการก่อสร้าง ควรเลือกทีมงานที่มีประสบการณ์ในการปรับปรุงอาคาร โดยดูจากผลงานโครงการต่างๆที่ผ่านมา เปรียบเทียบราคาของผู้รับเหมาหลายราย และมีการทำสัญญาให้ชัดเจนระบุรายละเอียดของงานที่ต้องทำ
ระยะเวลาในการก่อสร้าง
กำหนดระยะเวลาที่ต้องการให้โครงการแล้วเสร็จ พิจารณาปัจจัยที่อาจส่งผลต่อระยะเวลา เช่น สภาพอากาศ ความซับซ้อนของงาน เตรียมแผนสำรองไว้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
การออกแบบ
ควรทำการปรับปรุงอาคารให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการปรับปรุง โดยเน้นที่ฟังก์ชั่นการใช้งานและออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้มีประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย เพราะรูปลักษณ์ของอาคารถือเป็นหน้าตาที่สามารถเพิ่มมูลค่าของธุรกิจให้มีความน่าเชื่อถือต่อผู้พบเห็น
ความปลอดภัย
ปัจจัยที่มีความสำคัญในการก่อสร้าง คือความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้าง ต้องมีมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ ที่อาจเกิดขึ้นตลอดเวลา กรณีรีโนเวทควรมีการตรวจสอบโครงสร้างของอาคารเดิม เพราะประเมินถึงความเสี่ยง และการเลือกใช้วัสดุต่างๆ อย่างรอบคอบ
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ควรคำนึงถึงเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิเช่น จัดการขยะก่อสร้างอย่างถูกวิธี การเลือกใช้วัสดุและเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงาน เพื่อให้ส่งกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
แผ่นโปร่งแสงกับการปรับปรุงอาคาร
ซึ่งหากพูดถึงแผ่นโปร่งแสงส่วนใหญ่ เรามักจะนึกถึงหลังคาโปร่งแสงเป็นหลัก แต่ที่จริงแล้วนั้นวัสดุโปร่งแสง สามารถนำมาใช้เป็นวัสดุตกแต่งอาคารได้หลากหลาย ไม่ว่าเป็นเป็นผนัง กันสาด หรือหลังคา สามารถใช้ได้ทั้งภายใน และภายนอกอาคาร การนำแผ่นโปร่งแสงไปผสมผสานกับวัสดุอื่นๆ เช่น ไม้ โลหะ หรือกระจก จะช่วยสร้างความหลากหลายให้กับดีไซน์และตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานได้อย่างลงตัว การเลือกใช้วัสดุโปร่งแสงเป็นกรอบอาคาร นอกจากจะมีดีไซน์ที่ทันสมัยเฉพาะตัว ช่วยเสริมให้อาคารดูโปร่งสบายตาแล้ว ปริมาณแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาในอาคารอย่างทั่วถึง ยังทำให้ภายในอาคารดูสว่าง และช่วยลดการใช้ไฟฟ้าเป็นการประหยัดพลังงานอีกด้วย
โครงการบุญถาวร รัชดาภิเษกปรับปรุงอาคารโดยใช้แผ่นโปร่งแสง ตกแต่งเป็นฟาซาดรอบอาคารภายนอก เปิดรับแสงธรรมชาติในเวลากลางวัน และเพิ่มลูกเล่นของแสงไฟ ที่เคลื่อนย้ายไปตามอาคารให้ดูมีมิติ สร้างความโดดเด่นยามค่ำคืน เป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้ที่เดินทางผ่านไปมาบนถนนรัชดาภิเษก ให้มีความสนุกสนานและมีชีวิตชีวา
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานแผ่นโปร่งแสงเอสซีจี ร่วมกับโลหะ และวัสดุตกแต่งอื่นๆโครงการ Unicorn
ตัวอย่างการปรับปรุงอาคารโดยวัสดุโปร่งแสงที่มีน้ำหนักเบา โครงการ Chiangmai Art Connect โดย Wire Knot Studios
แผ่นตกแต่ง โปร่งแสง เอสซีจี รุ่น เดคคอร์ไลท์ ( SCG DECORLITE ) ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับใช้เป็น ฟาซาดตกแต่งภายนอกอาคาร มี 2 Series ให้เลือก
1.Flow Series แผ่นโปร่งแสงลอนโค้งให้ความรู้สึกพริ้วไหว เชื่อมต่อผนังอาคารให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแบบไร้รอยต่อ และ 2.Bold Series แผ่นโปร่งแสงลอนเหลี่ยม ให้ภาพลักษณ์อาคารดูโมเดิร์น ทันสมัย สร้างความน่าสนใจให้ตัวอาคาร และมี 2 สีมาตรฐาน เดซี่ไวท์ (Daisy White ) และ มิ้นท์กรีน (Mint Green) ให้ผู้ออกแบบได้เลือกใช้งานได้ตามสไตล์ที่ต้องการ เนื่องจากมีน้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย ตัวแผ่นที่มีขนาดใหญ่ทำให้รอยต่อของวัสดุน้อย ทำให้ผนังอาคาร ดูสวยงามเป็นชิ้นเดียวกัน สร้างความโดดเด่นให้อาคารและยังช่วยประหยัดโครงสร้างได้อีกด้วย
ตัวอย่างการใช้งานแผ่นโปร่งแสงเอสซีจี รุ่น เดคคอร์ไลท์ Flow Series โครงการ KOBY Coffee Shop
ปัจจุบันแผ่นโปร่งแสงจึงเริ่มเป็นที่นิยมใช้งานในโครงการต่างๆมากขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้ง ดีไซน์ ฟังก์ชั่น และความคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบสร้างอาคารใหม่ หรือการรีโนเวทซ่อมแซมอาคารเก่า แผ่นตกแต่งโปร่งแสง เอสซีจี เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับเจ้าของบ้านและเจ้าของอาคาร เพราะนอกจากน้ำหนักเบาไม่เป็นภาระให้โครงสร้าง ยังประหยัดพลังงานช่วยลดการใช้ไฟฟ้าและลดระยะเวลาในการทำงาน ตอบโจทย์ทั้งเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งาน ด้วยดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย สร้างความโดดเด่นในทุกมุมมอง สนใจสินค้าติดต่อสอบถามข้อมูล ได้ที่ 02-5862222 หรือ Contact@scg.com